ฝิ่น

การออกฤทธิ์ของฝิ่น

กดระบบประสาทส่วนสมอง  ทำให้สมองตึงเครียด  มึนงง  ความจำเสื่อม ทำให้การศึกษาเล่าเรียนไม่ประสบความสำเร็จทาที่ควร ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเสพหรืออนุพันธ์ของฝิ่นก็ตามก็ตาม  ฝิ่นจะออกฤทธิ์  กดศูนย์การหายใจ  ทำให้ปอดทำงานไม่ได้เต็มที่  การหายใจช้าลง  มีอาการอึดอัด  หายใจไม่เต็มปอด  ก็เพราะฤทธิ์ของยาฝิ่นได้กดกล้ามเนื้อของหัวใจเอาไว้  ฝิ่นจะออกฤทธิ์กดศูนย์รวมระบบประสาทไขสันหลัง  ดังนั้นผู้เสพจึงมีอาการกระตุกเป็นครั้งคราว  ตามอำนาจของฤทธิ์ยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบแห่งนี้  นอกจากนี้ฝิ่นยังออกฤทธิ์ต่อระบบขับถ่ายปัสสาวะ  ทำให้กล้ามเนื้อของการขับถ่ายหดตัวลง  จึงทำให้การขับถ่ายเป็นไปอย่างยากลำบากยิ่ง  เป็นเหตุทำให้เกิดการหมักหมมของสิ่งสกปรกในร่างกายอีกด้วย  ฝิ่นออกฤทธิ์กดกล้ามเนื้อทางเดินอาหาร  ทำให้กล้ามเนื้อทางเดินอาหารหดตัว  จึงเป็นเหตุทำให้  เกิดท้อง  ผูก  ท้องเดิน  ท้องร่วงอย่างรุนแรง  บางทีก็ถึงกับอุจจาระเป็นเลือดที่เราเรียกว่าลงแดงนั้นเอง  ผู้ที่ติดฝิ่น  จะเกิดอารมณ์ร้าย  อารมณ์หงุดหงิด       ทุรนทุราย  บ้าคลั่ง  สติไม่ได้  เนื้อสกปรกมอมแมม  กลิ่นตัวก็เหม็นเป็นที่น่ารังเกียจต่อผู้ที่พบเห็น  ดังได้กล่าวมาแล้ว   ฝิ่นจึงเป็นอันตรายมากต่อระบบประสาท
ดังนั้นรัฐบาลไทยจึงได้ประกาศให้เลิกสูบฝิ่น  และงดออกใบอนุญาตทั่วราชอาณาจักรเมื่อวันที่  1 มกราคม  พ.. 2499   แต่ก็ยังไม่เด็ดขาด  ต่อมาในปี พ.. 2501  คณะปฏิวัติภายใต้การนำของ ฯพณฯ  จอมพลสฤษดิ์   ธนะรัชต์  ได้พิจารณาเห็นว่าการเสพฝิ่นเป็นที่รังเกียจของสังคม  และเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างรุนแรงและบั่นทอนเศรษฐกิจของชาติบ้านเมือง  ประเทศต่าง ๆ  ได้พยายามเลิกเสพฝิ่นโดยเด็ดขาดมาแล้วเป็นจำนวนมาก  จึงเห็นสมควรให้มีการเลิกและจำหน่ายฝิ่นในประเทศไทยเสีย  ดังนั้น  ฯพณฯ  หัวหน้าทางคณะทางปฏิวัติจึงได้มีการประกาศของคณะปฏิบัติ  ฉบับที่   37  ลงวันที่  9 ธันวาคม  พ.. 2501  ดังต่อไปนี้
1.ให้เลิกการเสพฝิ่นและยกเลิกการจำหน่ายฝิ่นทั่วราชอาณาจักร  ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาตามประกาศนี้
2.กวดขันมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดเสพฝิ่นหรือมูลของฝิ่น  ตั้งแต่วันที่  1 มกราคม  พ.. 2502 เป็นต้นไป
3.ให้ยกเลิกร้านจำหน่ายฝิ่นให้หมดสิ้นโดยเด็ดขาดภายในวันที่  30 มิถุนายน  พ.. 2502
4.นับตั้งแต่วันที่  1 กรกฎาคม  พ.. 2502 เป็นต้นไปบุคคลที่เสพฝิ่นหรือมูลของฝิ่นก็จะมีความผิดตามกฎหมาย
เพื่อปฎิบัติตามประกาศของคณะปฎิวัติ  ในวันที่  1 กรกฎาคม  พ.. 2502 เวลา  1 นาฬิกา  ทางกระทรวงมหาดไทย  ก็ได้จัดการเผาเครื่องอุปกรณ์ในการเสพฝิ่นที่ท้องสนามหลวง  ซึ่ง  ฯพณฯ  จอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์  อดีตนายกรัฐมนตรีได้ไปควบคุมการเผาอุปกรณ์เสพฝิ่นด้วยตนเอง  ดังนั้นนับตั้งแต่รุ่งอรุณของวันที่  1 กรกฎาคม  พ..  2502  เป็นต้นมา  การเสพฝิ่นและการจำหน่ายฝิ่นในประเทศไทยถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย  ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ  พ.. 2465  และในเวลานั้นมีคนติดฝิ่นถึง  70,982 คน  นักเรียนนักศึกษาที่ติดฝิ่น  ทำให้เกิดการเบื่อหน่ายในชีวิต  เบื่อการเรียน  เบื่อการงาน  เขาจึงกลายเป็นคนไร้ความหมายในสังคมของคนทั่วไป  มักจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อยกับเพื่อน ๆ  อยู่เสมอ ใช้เงินทองเปลือง เพราะต้องเอาไปซื้อยาซื้อฝิ่นมาสูบมากิน  เมื่อเงินหมด  ก็ต้องหาให้ได้  ถ้าไม่ได้ก็ไปขโมยของคนอื่น  ปล้น  จี้  ฆ่า  จึงกลายเป็นอาชญากรแผ่นดินไป  นี่แหละคือโทษของยาเสพติด (ชามี อัฐกิจ และคณะ 

1 ความคิดเห็น: